FAQs

คำถามที่พบบ่อยในโครงการ Sci-FI

การรับสมัครนักศึกษาเข้าโครงการ Sci-FI

  1. ใครสามารถเข้าร่วมโครงการได้บ้าง? พนักงานสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการได้หรือไม่?
    โครงการสามารถรับได้ทั้งนักศึกษาจบใหม่ (ป.ตรี) และพนักงานของสถานประกอบการ ขึ้นอยู่กับความต้องการของโรงงานเป็นหลัก
  2. ถ้าเพิ่งเริ่มต้นโครงการแนะนำแบบใด ระหว่างนักศึกษาจบใหม่หรือพนักงานของสถานประกอบการเอง?
    แนะนำกรณีเป็นนักศึกษาจบใหม่ เนื่องจากมีพัฒนาด้านการเรียนรู้ค่อนข้างเร็ว พร้อมที่จะพัฒนาตัวเองและเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ
  3. การคัดเลือกนักศึกษามีกระบวนการอย่างไร? ใครเป็นผู้คัดเลือก? ทั้งในกรณีพนักงานและนักศึกษาจบใหม่?
    คัดเลือกร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาและสถานประกอบการ แต่ผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย คือ สถานประกอบการ เนื่องจากจะเข้าใจความต้องการและประเมินคุณสมบัติของผู้สมัครที่เหมาะสมกับงานได้ดีที่สุด
    กระบวนการ คือ ทางคณะจะทำเป็น shortlist ของผู้สมัครโดยพิจารณาในมุมมองจากฝั่งวิชาการเป็นหลักทั้งคุณสมบัติเบื้องต้นที่ต้องครบถ้วนตามเกณฑ์การเข้าศึกษาต่อและความรู้ในระดับ ป.ตรี จากนั้นสถานประกอบการคัดเลือกตามวิธีการที่เห็นสมควรซึ่งมักจะใช้วิธีการเดียวกันกับการคัดเลือกพนักงาน และเป็นผู้ตัดสินใจในขั้นสุดท้าย ทั้งนี้ อาจารย์อาจร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์ด้วยแล้วแต่การตกลงกับสถานประกอบการแต่ก็เพื่อให้ความเห็นจากมุมมองมหาวิทยาลัยเป็นหลัก กรณี พนักงานคุณสมบัติต้องผ่านเกณฑ์การเข้าศึกษาต่อของจุฬาฯ
  4. มหาวิทยาลัยมีนักศึกษาที่พร้อมเข้าร่วมโครงการแล้วหรือไม่? รับสมัครเฉพาะนิสิต จุฬาฯ หรือเปิดรับสมัครนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่นด้วย?
    เปิดรับทั้งนิสิต จุฬาฯ และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่นด้วย โครงการจะทำการหารือถึงความต้องการและคุณสมบัติของนักศึกษาที่จะเข้าร่วมโครงการกับสถานประกอบการก่อน แล้วจึงประกาศรับสมัครอย่างเป็นทางการแต่การประชาสัมพันธ์อาจจะเริ่มจากภายในจุฬาฯ เป็นลำดับแรกก่อนขยายสู่วงกว้างต่อไป โดยกลุ่มเป้าหมายของโครงการ คือ นักศึกษาที่เรียนจบแล้วอยากทำงาน แต่วางแผนเรื่องการเรียนต่อในอนาคตไว้ด้วย ประสบการณ์การทำงานที่จะได้รับจากโครงการจะตอบโจทย์นักศึกษากลุ่มนี้
  5. จำนวนนักศึกษาต่อสถานประกอบการที่แนะนำคือเท่าไหร่?
    จำนวนที่แนะนำคือ 2 คน โดยจะเป็นนักศึกษาทั้งหมด หรือนักศึกษากับพนักงานเดิม จะช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ช่วยเหลือกันได้ทั้งในแง่ของวิชาการและการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในการทำงาน

หลักสูตรและการเรียนการสอนของโครงการ Sci-FI

  1. โครงการนี้เป็นหลักสูตรเดิมหรือหลักสูตรใหม่?
    เป็นหลักสูตรใหม่ของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะให้เหมาะกับการเรียนการสอนในรูปแบบใหม่ที่เอื้อต่อการทำงานในสถานประกอบการตลอด 2 ปี และยืดหยุ่นมากพอที่สามารถจะเติมความรู้ให้กับนักศึกษาตามความต้องการของสถานประกอบการนั้นๆ แบบ tailor made เพื่อให้นักศึกษาสามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมการทำงานจริง
  2. วุฒิที่นักศึกษาจะได้รับ?
    วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วิทยาศาสตร์เพื่ออุตสาหกรรม)
  3. นักศึกษาจะต้องเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยช่วงไหนบ้าง?
    การเรียนการสอน แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 ก่อนเข้าโรงงาน 2 เดือน เป็นการเตรียมความพร้อมและสอนความรู้พื้นฐานทางทฤษฎีที่เกี่ยวของให้กับนักศึกษาก่อนเข้าสู่โรงงาน มีทั้งวิชาส่วนกลางที่เรียนรวมกับนักศึกษาคนอื่นในหลักสูตรกับวิชาเฉพาะเรียนแยกตามสถานประกอบการ เป็นการเรียนแบบ block course ที่มหาวิทยาลัยเป็นหลัก ช่วงที่ 2 หลังจากเข้าทำงานในโรงงานแล้ว นักศึกษาจะทำงานเหมือนพนักงานปกติในช่วง 3 เดือนแรก มีการถอดความรู้จัดทำเป็นรายงานส่งอาจารย์เพื่อให้ประเมินสิ่งที่ได้เรียนรู้และสิ่งที่ต้องการเพิ่มเติม จากนั้นอาจารย์จึงจัดการเรียนการสอนเพิ่มเติมให้ในโรงงาน โดยที่พนักงานของโรงงานสามารถเข้าร่วมได้ อาจจัดเป็นแบบ Coursework ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ หรือตามความสะดวก หรืออาจเป็นการอาจจะเป็นการเรียนรู้ผ่าน Problem base ทำเป็นชิ้นงานส่งอาจารย์แล้วแต่ความเหมาะสม
  4. นักศึกษาในโครงการ Sci-FI มีการแบ่งเวลาเรียนและทำงานอย่างไร?
    นักศึกษาจะทำงานในโรงงานตามวันและเวลาเสมือนกับพนักงานในแผนก/ฝ่ายนั้นๆ การเรียนจะเกิดขึ้นในช่วงเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดของสถานประกอบการนั้นๆ แล้วแต่ความสะดวก
  5. นักศึกษาต้องเรียนรวมหรือแยกจากนักศึกษาอื่นๆ
    การเรียนมีทั้งเรียนรวมกับนักศึกษาในหลักสูตรเดียวกัน และเรียนแยกบางวิชาสำหรับแต่ละโรงงาน หรือบางครั้งมีการเรียนการสอนที่โรงงาน
  6. เกณฑ์การจบการศึกษาของนักศึกษาเป็นอย่างไร?
    เป็นไปตามเกณฑ์การสำเร็จการศึกษาของจุฬาฯ โดยประเด็นที่สำคัญคือ นักศึกษาต้องมีคะแนนภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์ คือ CU-TEP 45 หรือ TOEFL 400 ขึ้นไป และต้องมีการนำเสนอผลงานในการประชุมวิชาการโดยบทความที่นำเสนอฉบับสมบูรณ์ (Full Paper) ได้รับการตีพิมพ์ในรายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการ (Proceeding)
  7. โรงงานสามารถร่วมเป็นกรรมการสอบโครงร่างวิทยานิพนธ์ได้หรือไม่?
    สามารถทำได้หากมีข้อคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนดคุณสมบัติของคณะกรรมการสอบของของกระทรวง แต่ทั้งนี้ ตัวแทนสถานประกอบการสามารถเข้าร่วมรับฟังการสอบได้

การรักษาความลับและทรัพย์สินทางปัญญา

  1. การรักษาความลับทางการค้าทำอย่างไร?
    ต้องมีการหารือและทำข้อตกลงกันตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ ซึ่งอาจกำหนดให้มีการเซ็นสัญญาไม่เปิดเผยความลับ หรือ Non-Disclosure Agreement (NDA) การได้รับการอนุญาต (Approve) ข้อมูลจากทั้งสถาบันการศึกษาและสถานประกอบการก่อนที่นักศึกษาจะนำข้อมูลไปนำเสนอในการประชุมวิชาการต่างๆ
  2. ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property: IP) ที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการ ใครเป็นเจ้าของ?
    ตกลงร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาและสถานประกอบการตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ ในรุ่นแรกของการดำเนินโครงการร่วมกันมีโอกาสขึ้นได้น้อย แต่เมื่อมีการดำเนินงานร่วมกันมากขึ้นจนนำไปสู่งานวิจัยเชิงลึก หรือโครงการงานวิจัยที่ใหญ่ขึ้นอาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้

การออกจากโครงการของนิสิต หรือจบช้ากว่า 2 ปี

  1. เคยมีนิสิต/นักศึกษาออกจากโครงการหรือไม่? และมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร?
    โครงการ Sci-FI ยังไม่เคยเกิดขึ้น แต่เคยมีเกิดขึ้นในโครงการลักษณะเดียวกัน มีทั้งกรณีผ่านการคัดเลือกแล้วเมื่อได้มาทำงานจริง พบว่ายังไม่ตอบโจทย์ตัวนักศึกษาเอง และกรณีเข้ามาทำงานแล้วบริษัทรับนักศึกษาเข้าเป็นพนักงานเลยไม่รอให้จบโครงการ ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งมหาวิทยาลัยและบริษัท
    สำหรับโครงการ Sci-FI ป้องกันด้วยระบบที่กำหนดให้อาจารย์ต้องเข้าโรงงานทุกเดือน นักศึกษาจะได้รับคำปรึกษาจากอาจารย์ทั้งเรื่องการเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิตในสถานประกอบการอย่างสม่ำเสมอ นักศึกษาจะรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้นและอยู่ร่วมจนจบโครงการ 2 ปี
    แต่หากเกิดขึ้นการแก้ไขปัญหาคือ หากเป็นในช่วงแรกของโครงการ (3-6 เดือนแรก) ก็จะหานักศึกษามาทดแทน กรณีร้ายแรงที่สุด คือ ได้เริ่มหัวข้อวิจัยไปแล้ว (1 ปี ขึ้นไป) จะเป็นการเติมคนเข้ามาทำงานเพื่อช่วยแก้ปัญหานั้นๆ โครงการยังคงดำเนินการต่อไป แต่เป็นในรูปแบบโครงการแก้ปัญหาของ ITAP เท่านั้น
  2. หากนักศึกษาไม่สามารถเรียนและทำงานให้ทันได้ตามกำหนดตามระยะเวลา 2 ปี ของโครงการ จะต้องขยายโครงการหรือไม่?
    โดยปกติโครงการจะสามารถจบได้ใน 2 ปี ด้วยกระบวนการพูดคุยหารือร่วมกันทุกเดือน เพื่อติดตามงานให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ หากมีความเสี่ยงเนื่องจากทางบริษัทยังไม่มีโจทย์ที่ชัดเจน ทางมหาวิทยาลัยจะช่วยหาโจทย์จากข้อมูลการทำงานของนักศึกษาโดยโจทย์ต้องลึกพอในระดับงานวิจัยปริญญาโท

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

  1. มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) หรือไม่? ระหว่างใครบ้าง?
    โครงการ Sci-FI มีการทำ MOU ใน 2 ระดับ คือ ระดับนโยบายภาครัฐระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและให้การสนับสนุนโครงการ กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับผู้ดำเนินโครงการ คือ ระหว่างคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กับ สถานประกอบการซึ่งจัดทำเป็น MOU แยกตามสถานประกอบการ
  2. โครงการ Sci-FI มีการเซ็นสัญญาระหว่างใครบ้าง?
    จะมีการเซ็นสัญญารายโครงการระหว่างบริษัทและทีมที่ปรึกษา ประกอบด้วย อาจารย์ที่ปรึกษาหลักของโครงการ อาจารย์ที่ปรึกษาร่วมของโครงการ และนิสิต Sci-FI ซึ่งประกอบด้วย 1.บันทึกข้อตกลงระหว่างบริษัทกับผู้เชี่ยวชาญ และ 2.บันทึกข้อตกลงว่าด้วยการรักษาข้อมูลเป็นความลับ ทั้งนี้เฉพาะกรณีที่บริษัทขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก ITAP ตามเงื่อนไขของ ITAP กรณีที่บริษัทไม่ขอรับการสนับสนุนจาก ITAP นั้นไม่ต้องเซ็นสัญญาในส่วนนี้  
    การผูกมัดหลังจบโครงการ
  3. สถานประกอบการสามารถทำสัญญาผูกมัดให้นักศึกษาต้องทำงานในสถานประกอบการหลังจบโครงการได้หรือไม่?
    ทางโครงการไม่แนะนำ การเข้าร่วมโครงการเปรียบเสมือนการทดลองงาน (probation) ระยะเวลา 2 ปี นักศึกษาต้องมุ่งมั่นและพยายามแสดงศักยภาพของตนเองออกมามากกว่าการที่รู้ตัวแล้วว่ามีตำแหน่งงานรองรับหลังจบโครงการแน่นอน รวมทั้งสถานประกอบการเองก็มีเวลาในการพิจารณาและให้ข้อเสนอแก่นักศึกษาที่คิดว่าเหมาะสมและทำงานได้จริงให้อยู่ร่วมงานต่อซึ่งมีหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นความท้าทายของงาน สวัสดิการ ความก้าวหน้าในเส้นทางอาชีพ เป็นต้น
  4. ที่ผ่านมามีนักศึกษาทำงานที่ทำงานต่อในสถานประกอบการหลังจบโครงการหรือไม่?
    ข้อมูลจากโครงการลักษณะเดียวกัน พบว่า มีนักศึกษาบางคนทำงานต่อกับสถานประกอบการและบางคนอยากนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปต่อยอดในสถานประกอบการที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ขึ้นกับตัวนักศึกษาเองและจำนวนตำแหน่งงานของสถานประกอบการที่เปิดรับในขณะนั้นด้วย

อื่นๆ (ที่เคยพบ)

  1. โครงการ Sci-FI มีภาควิชาใดบ้างที่เข้าร่วม?
    เริ่มต้นจาก 7 ภาควิชานำร่อง คือ เทคโนโลยีทางอาหาร วัสดุศาสตร์ เทคโนโลยีทางภาพและการพิมพ์ เคมีเทคนิค เคมี ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์หลักสูตร Sci-FI เป็นระดับคณะ ทุกภาควิชาของคณะเข้าร่วมได้ ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์จุฬาฯ มีทั้งหมด 14 ภาควิชา
  2. บริษัทควรปฏิบัติกับ นักศึกษา เหมือนพนักงานปกติหรือไม่
    นักศึกษา เป็น Employee ของบริษัท มี Job description ที่ชัดเจน โดย นักศึกษา ทำงานเต็มเวลา อาจมีช่วงเวลาในระหว่างวันให้ นักศึกษา ถอดความรู้เป็นบทเรียน
  3. นักศึกษาในโครงการวิทยาศาสตร์เพื่ออุตสาหกรรมต่างกับนักศึกษาที่มาฝึกงานอย่างไร
    นักศึกษาในโครงการอาจต้องเป็นภาระในสถานประกอบการในเรื่องการสอนงานในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นนักศึกษาจะเรียนรู้งาน ช่วยงานบางอย่างให้กับหัวหน้างานได้ รวมถึงแก้โจทย์ปัญหาบางอย่างและทำวิจัยในสถานประกอบการ ซึ่งจะต้องรักษาความลับให้ทางบริษัท
  4. วิธีการวัดความสำเร็จของโครงการเป็นอย่างไร
    ใช้รูปแบบของ ITAP โดยวัดจาก Proposal หากโจทย์ชัดกำหนดร่วมกันตั้งแต่ต้น แต่ถ้ายังไม่ชัด ก็ต้องมีรายงานที่แสดงถึงความก้าวหน้า ผลการเรียนรู้/ผลการศึกษา ที่เกิดขึ้นให้กับ ITAP เพื่อตรวจประเมิน เช่น ความเข้าใจเกี่ยวกับ Green industry ของนักศึกษา, การทำ literature review, การทำ market survey เป็นต้น